Lovely News Club
เรื่องน่ารู้สำหรับสัตว์เลี้ยง
โรคที่พบได้บ่อยในสุนัข
โรคที่พบได้บ่อยในสุนัขมีดังนี้
โรคลำไส้อักเสบ
เกิดจากเชื้อไวรัส มักพบบ่อยในลูกสุนัขตั้งแต่อายุ 2-6 เดือน อาการที่สังเกตุได้เมื่อได้รับเชื้อไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ คือ มันจะไม่กินอาหาร อาเจียนบ่อย มีไข้ขึ้นสูง นอนซม หมดแรง มีอาการท้องร่วง ถ่ายเป็นน้ำเหลว มีกลิ่นเหม็นคาว การป้องกันสำหรับโรคนี้คือควรฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 2 เดือน แล้วฉีดซ้ำเมื่ออายุ 3 เดือน จากนั้นให้ฉีดซ้ำปีละ 1 ครั้ง
โรคหัด
เกิดจากเชื้อไวรัส มักเกิดกับสุนัขอายุ 2-3 เดือนขึ้นไป อาการของโรคนี้จะแสดงออกทางระบบทางเดินหายใจ คือมีมูกสีเขียว เป็นไข้ เบื่ออาหาร มีตุ่มหนองขึ้นใต้ท้อง มีขี้ตาตลอดเวลา และอาจมีอาการทางประสาท คือ ริมฝีปากสั่น รวมทั้งมีอาการท้องร่วงด้วย การป้องกันคือควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดตั้งแต่อายุ 2 เดือน จากนั้นอีก 1 เดือนให้ไปฉีดซ้ำอีกครั้ง รวมทั้งฉีดวัคซีนเรื่อยๆตามกำหนด ประมาณปีละ 1 ครั้ง
โรคพิษสุนัขบ้า
อันที่จริงโรคนี้ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในฤดูร้อนเท่านั้น แต่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกฤดูกาล การติดเชื้อจะติดทางบาดแผลที่ถูกกัด แล้วแสดงอาการป่วยภายใน 20-60 วัน สังเกตุอาการได้จากเริ่มก้าวร้าวขึ้น อารมณ์หงุดหงิด อุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติ รูม่านตาขยายกว้างขึ้น กัดทุกอย่างที่ขวางหน้า โรคนี้ไม่มีทางรักษา
เห็บ
โดยทั่วไปเห็บที่อยู่ตามตัวสุนัขนั้นจะไข่ไว้มากมายตามพื้นดิน ตามสนามหญ้า จากนั้นจึงจะกระโดดไปเกาะหาเลือดกินตามตัวสุนัข ไม่ควรบี้เห็บบนพื้นเพราะจะเป็นการแพร่ขยายไข่เห็บมากขึ้น ควรใส่เห็บลงไปในน้ำ หรือน้ำมันเพื่อเป็นการฆ่าเห็บจะดีกว่า
โรคปอดบวม
สุนัขจะมีอาการไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร หลบไปนอนในที่เย็น หายใจหอบ มีน้ำมูกไหลออกมาเป็นสีขาว โรคปอดบวมเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือพยาธิ เข้าไปทำลายปอด การป้องกันคือควรดูแลรักษาความสะอาด ให้อาหารที่มีประโยชน์ เมื่อมีอาการควรนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา
โรคพยาธิ
พยาธิจะอาศัยอยู่ในลำไส้ของสุนัข จะคอยแย่งอาหารและดูดกินสารอาหารที่กระเพาะย่อยแล้ว ทำให้สุนัขเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ ลูกสุนัขอาจมีพยาธิตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ โดยไชเข้าไปตามกระแสเลือดที่ส่งไปเลี้ยงสุนัขในมดลูก การป้องกันทำได้โดยนำสุนัขไปถ่ายพยาธิทุก 3-4 เดือน เพื่อให้สุนัขเจริญเติบโตตามปกติ
อย่างไรก็ดีหากคุณไม่แน่ใจว่าสุนัขของคุณมีอาการผิดปกติเนื่องจากสาเหตุใดนั้น คุณควรรีบนำสุนัขส่งสัตวแพทย์ทันทีเพื่อการรักษาที่ทันเวลาและถูกต้องจะดีที่สุดค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น