เลี้ยงเจ้าเหมียวอย่างไรให้มีความสุข



แมวเป็นสัตว์ที่ไม่ต้องเอาอกเอาใจมากนัก ถ้าเจ้าของรู้จักเอาใจใส่ก็จะทำให้มันมีความสุขยิ่งขึ้น สำหรับวิธีเลี้ยงแมวอย่างไรให้มีความสุข เรามีคำแนะนำดังต่อไปนี้

  1. ถ้าหากจะพาเจ้าเหมียวไปเที่ยวหรือเดินทางไกลจะต้องเตรียมอาหารและน้ำให้เพียงพอ ยิ่งเดินทางเกินกว่า 1 ชั่วโมงจะต้องให้เจ้าเหมียวกินอาหารครึ่งหนึ่งของปกติในระหว่างเดินทาง อาหารที่เหมาะสมที่สุดควรจะเป็นอาหารเม็ด และแมวจะมีอาการเมารถได้มากว่าสุนัขเพราะกระดูกที่หูจะไม่คุ้นกับความเร็วเหมือนกับสุนัข
  2. อาการเมารถของแมวจะเริ่มต้นด้วยการน้ำลายไหลยืด ซึม อาเจียน น้ำตาไหล ส่วนมากจะเกิดในระยะเวลา 10 ถึง 15 นาทีแรกของการเดินทาง จีมีอาการตะกุยเบาะ ตะกุยขอบรถ หรือบางตัวจะตื่นกลัว วิธีแก้คือควรจะนำเจ้าเหมียวนั่งรถในขณะที่รถยังไม่ติดเครื่อง และเริ่มสตาร์ทเครื่องโดยไม่เคลื่อนที่ไปไหนให้มันชินกับเสียงเครื่องยนต์ ควรทำบ่อยๆเพื่อให้เจ้าเหมียวเกิดความเคยชิน จากนั้นค่อยเริ่มเดินทางไปในระยะสั้นๆ แล้วเพิ่มระยะทางขึ้นเรื่อยๆ ถ้าน้ำลายไหลมากให้หยุดเดินทาง
  3. ภาชนะที่ใช้ในการขนย้ายแมวระหว่างเดินทางควรจะเป็นตะกร้าหวาย ตะกร้าพลาสติก กระเป๋าเดินทางที่มีซิบรูด เพื่อเวลาแมวเมารถหรือมีอาการอาเจียนจะไม่เลอะเปรอะเปื้อนรถ
  4. ของเล่นของเจ้าเหมียวที่ทำได้ง่ายๆคือก้อนกระดาษกลมๆ ซึ่งมันจะนำมาฉีกเล่นได้อย่างสนุกสนาน หรืออาจจะใช้ลูกบอลพลาสติก แต่ระวังของที่ต้องใช้เชือกผูกแขวนให้มันไล่จับ เพราะเชือกอาจพันคอทำให้เจ้าเหมียวตายได้
  5. กิจวัตรประจำวันของเจ้าเหมียวส่วนใหญ่คือ เที่ยว เล่น กิน นอน ถ้าพบว่ามันหาวก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะนั่นแสดงถึงว่ามันกำลังมีความสุขและกำลังสบายตัว ที่นอนของเจ้าเหมียวควรจะจัดให้มันอยู่อย่างสงบที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง
  6. แมวอายุมาก มักจะเคลื่อนไหวได้ช้าลง และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน เจ้าของควรหากิจกรรมมาให้มันได้เคลื่อนไหวร่างกายบ้าง เพื่อกระตุ้นความสนใจให้มันอยากเคลื่อนไหว แต่ก็อย่าหักโหมจนเกินไปนักเพราะจะเป็นผลเสียต่อกล้ามเนื้อได้
  7. หากเจ้าของไม่อยู่บ้านและจำเป็นต้องทิ้งเจ้าเหมียวไว้ ก็ควรจะเพิ่มอาหารให้มันตามสัดส่วน ไม่จำเป็นต้องให้มันอยู่นอกบ้าน เพราะแมวไม่ชอบออกกำลังผาดโผนเหมือนอย่างสุนัข
  8. เมื่อจำเป็นต้องใช้บริการร้านรับฝากเลี้ยงสัตว์ ควรจะตรวจดูให้แน่นอนว่ามีประตูแน่นหนาพอที่จะไม่ทำให้มันหนีออกมาและหายสาบสูญได้ และสถานที่ควรมีการแยกระหว่างสุนัขกับแมว เมื่อรับกลับบ้านก็ควรจะตรวจให้แน่ใจว่าแมวมีอาการปกติ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น